ยินดีต้องรับสู่ เปอร์เซียดอนเมือง สำหรับท่านที่ต้องการเลี้ยงแมว ทางเรามีบริการน้องแมวหาพ่อแม่ใหม่ ไว้รอท่านเชิญสอบถามได้นะค่ะน้องแมวเลี้ยงเองไม่แพงค่ะแบ่งกันดูแลสอบถามได้ 0814569140…..(=^ェ^=)….~♥

วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2556

การเตรียมตัวนำลูกแมวพันธุ์เปอร์เซียไปเลี้ยง

การเตรียมตัวนำลูกแมวพันธุ์เปอร์เซียไปเลี้ยง

หลายคคน มักจะเป็นคนเลี้ยงประเภทมือใหม่หัดขับใจรักอยากได้น้องแมว
ไปกอดไปเล่นเห็นว่าแมวน่ารักขนปุกปุย น่าตาหน้าเกลียดน่าชังแล้วด้วยความไม่ประสีประสา
อะไรก็รีบซื้อ ลูกแมวไปปรากฏว่าบางคนก็โชคดีสามารถเลี้ยงจนโตสมปรารถนา บางคนก็มานั่ง
ร้องไห้เพราะว่า ลูกแมวเปอร์เซีย ที่ตัวเองรัก จากไป
การเลี้ยงลูก แมวเปอร์เซีย จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเกินไป หรือยากเกินไปสำหรับคนที่ไม่เคยเลี้ยง แมวเปอร์เซีย บางคนที่คุยด้วยก็บอกว่าจะเลี้ยงมันเหมือน เลี้ยงแมว ที่บ้าน คือเช้าๆให้กินข้าวคลุกปลาทู แล้วปล่อยออกนอกบ้านไปขี้บนหลังคาบ้านเพื่อนบ้าน รับรองถ้าไปบอกวิธีการเลี้ยงแบบนี้กับ ฟาร์มแมวเปอร์เซีย ที่ดังๆดู ให้ราคาเขาเท่าไรเขาอาจจะไม่ขายแมวให้เรา แต่ถ้าซื้อมาตัวละไม่กี่ร้อยบาทหรือพันสองพันบาท ก็แล้วแต่ลูกค้าเอง
วิธีที่ง่ายๆสำหรับคนที่เบี้ยน้อยตามสภาวะเศรษฐกิจ ก่อนอื่นให้พิจารณาดังต่อไปนี้
 1. ต้องถามตัวเองก่อนว่าอยากเลี้ยงแมวทำไม เหงา แฟนทิ้ง เบื่อ อยากมีเพื่อนนอนกอดที่น่ารักเหมือนตุ๊กตา แฟนซื้อให้ ฯลฯ แต่ต้องตอบตัวเองข้อหนึ่งให้ได้ว่า พร้อมที่จะรับผิดชอบหรือดูแลเขาได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ ถ้าไปเที่ยวใครจะดูแลให้น้ำให้ท่า เวลาเขาป่วยจะมีเวลาพาเขาไปหาสัตวแพทย์ไหม มีเวลาแปรงขนให้ไหม มีเวลาโกยอุจจาระในกระบะทรายไหม ทนกลิ่นเหม็นตอนเขาถ่ายได้ไหม กล้าอาบน้ำไหม(บางคนงงว่า แมวต้องอาบน้ำด้วยเหรอ) ฯลฯ สรุปว่าใจพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์เงินก็พร้อมคนข้างเคียงก็ไม่ว่าไร  สาวๆคนไหนที่มีหนุ่มๆมาจีบและอยากได้น้องแมวมาเลี้ยงอาจจะขอของขัวญวันเกิดเป็นน้องแมวพันธุ์เปอร์เซียก็ได้ ลูกค้าของพั้นช์แคท  หลายคนก็ใช้วิธีนี้กันไม่ต้องซื้อเองแจ่มไปเลย
 2. สถานที่เลี้ยงก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาด้วย แต่ การเลี้ยงแมวพันธุ์เปอร์เซีย ใช้พื้นที่ไม่มากนัก ในคอนโดมิเนียมก็สามารถเลี้ยงเขาได้อย่างสบาย บางคนก็ชอบนอนกับแมวเลยก็มี อย่างนี้ก็ต้องหมั่นหวีขนให้เขาทุกวัน แมวขนยาว ต้องระวังไม่ให้ขนพันกันเป็นก้อน อย่าพยายามให้เขาอยู่ในที่อับชื้น เช่นห้องน้ำ เดี๋ยว เชื้อรา จะถามหาเอา ถ้ามีหน้าต่างรับแสงแดดได้ก็ยิ่งดี เพราะฉะนั้นเรื่องสถานที่การเลี้ยงแมวจึงไม่ค่อยซีเรียสมากเหมือนการเลี้ยงสุนัข แมวเปอร์เซีย จะไม่ค่อยโวยวายและเสียงดังมาก เพียงแต่ระวังของจะตกแตกได้เพราะความซนของ แมว เอง
 3. กระบะทราย ถ้า แมว ยังเล็กๆอยู่ก็ให้ใช้กระบะทรายเล็กๆ หรือมีบางคนใช้วิธีที่ประหยัดโดยให้ฉีกหนังสือพิมพ์เป็นชิ้นยาวๆเล็กๆใส่ในกระบะพอประมาณ ก็สามารถให้ แมว ตัวโปรดขับถ่ายได้อย่างสบาย ฝุ่นจากทรายแมวก็ไม่มี กลิ่นก็ไม่มาก ข้อดีคือเหมาะกับแมวเด็กๆ 2-4 เดือน เพราะว่าการขับถ่ายยังไม่เยอะมาก แต่เมื่อแมวโตมากขึ้นกินมากขึ้น  ควารหาซื้อทรายแมวมาแทนเพราะว่าจะกำจัดกลิ่นได้ดีกว่าและสะดวกในการกำจัด แมวเล็กๆบางตัวที่ไม่คุ้นเคยกับทรายก็จะกินทรายเข้าไป บางตัวก็คายทิ้ง บางตัวก็กินเข้าไปแล้วมักจะติดที่กะพุงแก้ม ถ้าตัวไหนกินเข้าไปเยอะๆอาจจะตายได้ วิธีง่ายๆที่จะช่วยแมวตัวเล็กๆให้คุ้นเคยกับ ทรายแมว โดยการจับแมวให้อยู่บน กระบะทราย แล้วให้สังเกตว่าแมวกินทรายเข้าไปหรือเปล่า ถ้ากินเข้าไปให้รีบจับออกมาแล้วใช้มือง้างปากแมวพยายามนำเอาทรายที่ ลูกแมว กินเข้าไปออกมา แล้วปล่อยเข้าไปในกระบะทรายใหม่ ทำอย่างนี้ซัก 2-3 ครั้ง ลูกแมว ก็จะเลิกกินเอง ปรกติแล้วเขาจะรู้เองโดยธรรมชาติอยู่แล้วว่ามันกินไม่ได้ และพยายามจะคายออกมา จึงเป็นหน้าที่ของคนเลี้ยงที่จะต้องดูแลโดยใกล้ชิดในช่วงแรก แต่โดยปรกติแล้ว ลูกแมวของ พั้นช์แคททุกตัวก่อนจะไปอยู่บ้านใหม่จะถูกฝึกให้ขับถ่ายในกระบะทราย จึงไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไรนักเวลาย้ายบ้านใหม่
4. กระบอกน้ำ การใช้ กระบอกน้ำ ให้ แมวเลียน้ำเองจากกระบอก ดูเหมือนว่าจะทรมานสัตว์ แต่จริงๆแล้วการมีกระบอกน้ำจะช่วยให้น้ำสะอาดตลอดเวลา สะดวกสำหรับคนเลี้ยง ไม่เหกเลอะบนพื้นง่าย(นอกจากกระบอกน้ำที่ลูกปืนมันไม่ค่อยดี) รวมทั้งไม่ต้องค่อยมาเติมน้ำบ่อยๆ และน้ำจะไม่ไปติดขนใต้คาง ลดอาการการเกิดขนสีขาวเปลี่ยนเป็นเหลืองได้ดี ลูกแมวของ พั้นช์แคททุกตัวจะถูกฝึกให้ดื่มน้ำจากกระบอกน้ำก่อนจะย้ายไปอยู่บ้านใหม่
5. กรงแมว บางคนอาจจะไม่จำเป็นก็ได้ถ้าจะให้แมวนอนด้วยกัน แต่ต้องระวังและมั่นใจว่า แมวโปรด ของเราได้รับการฝึกขับถ่ายเป็นที่เป็นทางเรียบร้อยแล้ว มิฉะนั้นแมวอาจจะขับถ่ายบนที่นอน ถ้าอยากให้อยู่เป็นที่เป็นทางก็ควรซื้อกรงให้เขา ควรจะเป็นกรงที่เป็น 2 ชั้นจะดีกว่ากรงชั้นเดียว กรงแมวก็หาซื้อได้ตามร้าน pet shop ทั่วๆไปหรือสั่งทำขึ้นมา ในกรงก็จะมีกระบอกน้ำและภาชนะใส่อาหาร
6. อาหาร ใครขยันทำอาหารให้แมวทุกมื้อก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าเป็นพวกเครื่องในหมูหรือปลาควรจะทำสุกก่อน แมวกินของสดก็ได้เช่นหัวใจไก่ เนื้อไก่ ไข่แดงดิบ อย่างไงก็ตามควรถ่ายพยาธิบ่อยๆก็แล้วกัน ส่วนพวกตับ ต้องระวังจะมีปัญหาท้องเสียตามมาควรทำให้สุกเสียก่อน การให้ นมแมว ไม่ควรใช้นมข้นหวานที่ขายในท้องตลาด ควรใช้นมแพะเป็นหลัก หาซื้อได้ตามร้าน Pet shop ทั่วๆไป เช่นในสวนลุมไนท์บาร์ซ่า เป็นต้น ถ้าหาไม่ได้จริงๆให้ซื้อนมแพะของฟาร์มโชคชัย ตามร้าน 7 ? eleven ขวดละ 20 บาท (แพงไปหน่อย) และถ้าต้องการความสะดวกในการให้อาหาร ควรให้เป็นอาหารเม็ด อาหารเม็ดจะมีสารอาหารครบถ้วนสมบูรณ์ ฟาร์มของพั้นช์แคท เราใช้ Royal Canin เป็นหลัก เป็นถุงฟาร์ม ถ้าใครจะให้ช่วยสั่งให้ยินดีเสมอ เพราะปรกติแล้วถุงใหญ่จะไม่มีขายในร้าน Pet Shop ลูกแมว ของพั้นช์แคท ทุกตัวกินอาหารเม็ดเป็นหมด
7. กรรไกรตัดเล็บแมว แชมพูอาบน้ำแมว แป้ง หวี สำลีเช็ดคาบน้ำตา น้ำยาเช็ดขอบดวงตาให้หาซื้อตามร้านขายยาก็ได้เอาชนิดอ่อนที่สุด หรือนำมาผสมน้ำเกลือล้างแผลก็ได้จะประหยัดกว่าการไปซื้อที่เป็นของเฉพาะแมวเป็นไหนๆ อย่าลืมน้ำยาเช็ดหูพร้อมไม้แคะหูด้วย 
8. ตะกร้าใส่แมวเวลาพาไปหาหมอ หรือพาแมวไปเที่ยว พร้อมกับหาซื้อกระดาษซับฉี่(ใช้ของยี่ห้อLotus ก็ได้ถูกดี)จะเห็นว่าการเตรียมตัวที่จะ เลี้ยงแมวพันธุ์เปอร์เซีย ไม่ใช่ยุ่งยากกว่าที่คิด ถ้าท่านเลี้ยงเขาอย่างทนุถนอมรักเขา ท่านก็จะได้ความรักตอบแทนจากแมวตัวโปรดที่ท่านรักเช่นกัน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น